คงผู้ใช้ไว้ด้วย Google Play Points

ในเดือนสิงหาคม 2022 เราได้เพิ่มคอลัมน์เกี่ยวกับคำสั่งซื้อที่มีโปรโมชัน Play Points ในรายงานการขายที่คาดการณ์และรายงานรายได้ที่คุณดาวน์โหลดได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติม

Google Play Points เป็นโปรแกรมที่ให้รางวัลเมื่อผู้ใช้มีส่วนร่วมกับระบบนิเวศของ Play นักพัฒนาแอปบางรายได้รับเชิญให้จัดทำโปรโมชัน Play Points เฉพาะแอปซึ่งเป็นการให้รางวัลเพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการคงผู้ใช้ไว้และให้ผู้ใช้นำแต้มกลับมาลงทุนในแอปของตน

โปรแกรมสะสมคะแนน Google Play Points คืออะไร

ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนในโปรแกรม Google Play Points จะได้รับแต้มผ่านการซื้อสินค้าใน Google Play ซึ่งรวมถึงไอเทมที่ซื้อในแอป ภาพยนตร์ หนังสือ (ในบางประเทศ) และการสมัครใช้บริการ และจะได้รับแต้ม Play จากการดาวน์โหลดแอปและเกมฟรีที่ร่วมรายการด้วย กิจกรรมแจกแต้มประจำสัปดาห์ช่วยบูสต์อัตราการสะสมแต้มจากภาพยนตร์ หนังสือ (ในบางประเทศ) และเกมบางเกม

แต้ม Play ใช้ในการแลกรับไอเทมพิเศษที่ซื้อในแอป คูปองส่วนลดเฉพาะแอป เครดิต Google Play หรือการบริจาคบน Play (ในบางประเทศ)

ผู้ใช้จะสามารถเลื่อนระดับเมื่อได้รับแต้ม ซึ่งจะเป็นการบูสต์อัตราการสะสมแต้มและช่วยให้เข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ เช่น รางวัลประจำสัปดาห์

โปรโมชัน Google Play Points คืออะไร

นักพัฒนาแอปบางรายสามารถจัดทำโปรโมชัน Google Play Points ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ใช้แต้ม Play เพื่อซื้อรางวัลเฉพาะแอป โปรโมชัน Google Play Points มี 2 ประเภท ดังนี้

  • ไอเทมที่ซื้อในแอป: ใช้แต้มเพื่อแลกรับไอเทมในเกม เราขอแนะนำให้ไอเทมนี้เป็นไอเทมเฉพาะตัวสำหรับผู้ใช้แต้ม Play เพื่อเป็นรางวัลจูงใจพิเศษให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับโปรแกรม
  • โปรโมชันคูปอง: ใช้แต้มแลกรับคูปองส่วนลดสำหรับการซื้อในแอปหรือเกมที่มีมูลค่ามากกว่าคูปอง ตัวอย่างเช่น คูปอง 60 บาทใช้กับการซื้อ 300 บาท เพื่อให้ผู้ใช้จ่ายเพียง 240 บาท

ผู้ใช้จะมองเห็นโปรโมชันใน Play Store หรือแท็บ "ใช้" ในส่วนแต้ม Play ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวนผู้ที่เห็นแอปและส่งเสริมให้ผู้ใช้นำแต้มกลับมาลงทุน แอปที่มีโปรโมชัน Play Points มักมีอัตราการคงผู้ใช้ที่สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น

สร้างไอเทมที่ซื้อในแอปและโปรโมชัน

เมื่อสร้างไอเทมที่ซื้อในแอปและโปรโมชัน โปรดทำตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ด้านล่าง

ชื่อผลิตภัณฑ์

  • ใช้ชื่อที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้และสมาชิก Play Points ใช้ชื่อที่ชัดเจนเพื่อแยกระหว่างไอเทมที่คล้ายกันซึ่งมีฟังก์ชันต่างกันในเกม เช่น ไอเทมที่ต้องซื้อและไอเทมที่ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • พิจารณาใช้ชื่อต่างกันสำหรับไอเทมที่ซื้อในแอปเมื่อปรากฏใน Play Console และเมื่อปรากฏในแอปหลังจากซื้อด้วยแต้ม Play
    • เมื่อตั้งค่าไอเทมที่ซื้อในแอปใน Play Console ให้ตรวจสอบว่าชื่อไอเทมไม่ได้พูดถึง Google, Play หรือ Play Points ในทำนองเดียวกัน อย่าอ้างอิงถึงชื่อแอปของคุณ โปรแกรม Play Points จะแสดงโปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอปใต้ส่วนหัวของแอปคุณโดยอัตโนมัติ
    • ในแอป เราขอแนะนำให้ชื่ออ้างอิงถึง Google Play Points เพื่อให้ผู้ใช้ทราบได้โดยง่ายว่าไอเทมนี้มีที่มาจากที่ไหน ตัวอย่างการตั้งชื่อไอเทมที่ซื้อในแอปสำหรับเพชร 50 เม็ดมีดังนี้
      • สำหรับ Play Console และ Play Points: "เพชร 50 เม็ด"
      • ในแอป: "เพชร 50 เม็ดจาก Play Points"
  • ชื่อที่แสดงมีความยาวได้สูงสุด 55 อักขระแต่เราขอแนะนำให้คุณใช้ไม่เกิน 20 อักขระ เพื่อให้ชื่อแสดงเป็นบรรทัดเดียวในแอป Google Play
  • อย่าใส่ Google Play Points ในไอเทมที่ซื้อในแอปหรือโปรโมชัน
  • หลีกเลี่ยงอักขระที่ไม่จำเป็น เช่น "[]", "()", "*", "<>", "{}", "_"

คำอธิบาย

  • ระบุคำอธิบายผลิตภัณฑ์เพื่อชี้แจงสิทธิประโยชน์และมูลค่าของไอเทม
  • คำอธิบายมีความยาวได้ไม่เกิน 200 อักขระ (รวมเว้นวรรค)

ไอคอน

  • ไอเทมที่ซื้อในแอปหรือโปรโมชันต้องมีไอคอนที่ไม่ซ้ำกันซึ่งนำเสนอเนื้อหาของไอเทมหรือโปรโมชันได้ดีที่สุด
  • หากไอเทมมีอยู่ในเกม ไอคอนควรใช้ภาพเดียวกับที่ใช้ในเกม
  • อาร์ตเวิร์กควรแตกต่างกันเพื่อช่วยให้ผู้ใช้แยกแยะได้ว่าเป็นไอเทมที่ต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักพัฒนาแอปส่งไอเทมหลายรายการในเกมเดียว

การอัปโหลดไอคอน

คุณสามารถอัปโหลดไอคอนใน Play Console

คุณดูตัวอย่างของไอคอนได้หลังจากที่อัปโหลด จากนั้นจึงส่งไอคอนไปยังโปรโมชัน Play Points Google จะตรวจสอบอาร์ตเวิร์กของโปรโมชันระหว่างการตรวจสอบก่อนการเผยแพร่ หากอาร์ตเวิร์กไม่ผ่านข้อกำหนดของไอเทมที่ซื้อในแอป โปรโมชันของคุณจะถูกปฏิเสธ หมายเหตุ: Google จะสร้างไอคอนสำหรับโปรโมชันคูปองให้โดยอัตโนมัติ

หลังจากอาร์ตเวิร์กได้รับอนุมัติแล้ว Google จะสร้างไอคอนเวอร์ชันมินิการ์ด 1 เท่า มินิการ์ด 2 เท่า และหกเหลี่ยม

ข้อกำหนดของรูปภาพ

  • ขนาดรูปภาพ: 512 x 512 พิกเซล (ขั้นต่ำ) ถึง 1080 x 1080 พิกเซล (สูงสุด)
  • สัดส่วนภาพ 1:1
  • อาร์ตเวิร์กหลักควรอยู่ตรงกลางและมีขนาดระหว่าง ~255 x ~255 พิกเซล (ขั้นต่ำ) ถึง ~537 x ~537 พิกเซล (สูงสุด)
  • ประเภทไฟล์: PNG 32 บิต
  • ความละเอียด: 72 PPI
  • พื้นที่สี: sRGB
  • ขนาดไฟล์สูงสุด: สูงสุด 8 MB

ข้อกำหนดของไอคอน

อาร์ตเวิร์กหลัก

  • ระหว่าง ~255 x ~255 (ขั้นต่ำ) ไปจนถึง ~537 x ~537 (สูงสุด)
  • โซนปลอดภัยคือบริเวณที่ควรวางอาร์ตเวิร์กหลักในไอคอน วางอาร์ตเวิร์กให้อยู่ภายในขอบเขตที่แนะนำเพื่อป้องกันการถูกครอบตัดโดยไม่จำเป็น

พื้นหลัง

  • ระหว่าง 512 x 512 (ขั้นต่ำ) ถึง 1080 x 1080 (สูงสุด)
  • เราขอแนะนำให้ใช้ลวดลายง่ายๆ หรือสีพื้นเป็นพื้นหลังเพื่อให้ไอคอนอ่านได้ง่าย
ดูตัวอย่าง

เคล็ดลับเกี่ยวกับไอคอน

ใช้โซนปลอดภัยที่แนะนำ (255 x 255) สำหรับขนาดของอาร์ตเวิร์ก อย่าใช้อาร์ตเวิร์กที่ครอบตัดมากกว่า 10% โปรดทราบว่าคุณยังคงครอบตัดอาร์ตเวิร์กได้แต่ไม่ควรเกิน 10%

ดูตัวอย่าง

ใช้พื้นหลังที่ส่งเสริมอาร์ตเวิร์กของคุณ หลีกเลี่ยงลวดลายที่มีพื้นหลังยุ่งเหยิงหรือพื้นหลังที่มีสีเดียวกับไอคอน

ดูตัวอย่าง

ใช้พื้นหลังที่มีโทนและสีตัดกับไอคอน หลีกเลี่ยงขอบหรือพื้นหลังสีขาวเนื่องจากจะมองไม่เห็น

ดูตัวอย่าง

ใช้ลวดลายง่ายๆ เพื่อไฮไลต์ไอคอน ลวดลายที่ยุ่งเหยิงมักทำให้ไอคอนไม่โดดเด่น

ดูตัวอย่าง

หลีกเลี่ยงการใช้ข้อความและตัวเลข ข้อความไฮไลต์โปรโมชัน และการสร้างแบรนด์

ดูตัวอย่าง

อย่าใช้เนื้อหาแบบรูปภาพที่มีความละเอียดต่ำและหลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพที่มีขนาดเล็กจนเกินไป

ดูตัวอย่าง

ดูตัวอย่างเวอร์ชันที่ Google สร้างขึ้น

มินิการ์ด 1 เท่า

มินิการ์ด 2 เท่า

ไอคอนหกเหลี่ยม

ตั้งค่าโปรโมชัน Google Play Points

ปัจจุบันคุณจะลงทะเบียนในโปรแกรม Google Play Points ได้ผ่านคำเชิญเฉพาะแอปเท่านั้น หากได้รับเชิญ คุณจะเห็นหน้าแต้ม Play (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > แต้ม Play) ในเมนูด้านซ้าย ซึ่งจะเป็นที่ให้คุณกำหนดค่าโปรโมชันเหล่านี้

หมายเหตุ

  • เจ้าของบัญชีนักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องยอมรับข้อกำหนดในการให้บริการของ Google Play Points ก่อน คุณจึงจะตั้งค่าโปรโมชันได้ โดยเจ้าของบัญชีจะต้องยอมรับข้อกำหนด 1 ครั้งต่อบัญชีนักพัฒนาซอฟต์แวร์
  • คุณต้องมีสิทธิ์จัดการการแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ใน Store จึงจะจัดการโปรโมชันได้
  • คุณสามารถกำหนดค่าไอเทมที่ซื้อในแอป 1 รายการสำหรับ 1 โปรโมชัน Play Points ที่ส่งหรือเผยแพร่อยู่ต่อประเทศ
  • คุณมีข้อเสนอพร้อมกันได้สูงสุด 10 รายการต่อประเทศ (โปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอปแบบไม่จำกัด โปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอปแบบจำกัด หรือคูปอง) หากมีข้อเสนอเกินขีดจำกัดเหล่านี้และพยายามสร้างข้อเสนอเพิ่มเติม คุณจะไม่สามารถทำได้
  • เราขอแนะนำให้คุณจัดทำโปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอปอย่างน้อย 1 รายการ เนื่องจากโปรโมชันประเภทนี้ส่งผลต่อการคงผู้ใช้ไว้ได้มากกว่า
สร้างโปรโมชัน

สิ่งสำคัญบางอย่างที่ควรทราบก่อนเริ่มดำเนินการมีดังนี้

  • โปรโมชันเป็นได้ทั้งแบบจำกัดหรือไม่จำกัด โปรโมชันแบบจำกัดจะแลกสิทธิ์ได้ในจํานวนครั้งที่กําหนดไว้ต่อผู้ใช้และต่อประเทศ/ภูมิภาค ข้อเสนอแบบไม่จำกัดจะแลกสิทธิ์กี่ครั้งก็ได้ก่อนวันที่สิ้นสุดที่ระบุไว้
  • โปรโมชันแบบจำกัดต้องมีจำนวนสูงสุดที่กำหนดไว้ต่อผู้ใช้/ภูมิภาคและจำนวนสูงสุดที่กำหนดไว้ต่อผู้ใช้ คุณจะใช้ค่าเริ่มต้นที่ระบุไว้หรือปรับแต่งจำนวนเหล่านี้ก็ได้ ตัวอย่างเช่น จำนวนสูงสุดเริ่มต้นต่อผู้ใช้คือ 1 แต่คุณสามารถเลือกจำนวนใดก็ได้ระหว่าง 1-5
  • โปรโมชันแบบจำกัดจะมีป้ายกำกับว่า "มีจำนวนจำกัด" และ "ใกล้หมดแล้ว" ใน Google Play เมื่อโปรโมชันกำลังจะถึงจำนวนที่ตั้งไว้
  • คุณสามารถแก้ไขข้อเสนอที่ถูกปฏิเสธเพื่อทำให้เป็นแบบไม่จำกัดหรือแบบจำกัด

วิธีสร้างโปรโมชันคูปอง

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าแต้ม Play (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > แต้ม Play)
  2. ในส่วน "โปรโมชัน"
    • หากต้องการสร้างโปรโมชันคูปอง ให้เลือกสร้างโปรโมชัน > คูปอง
    • หากต้องการสร้างไอเทมที่ซื้อในแอป ให้เลือกสร้างโปรโมชัน > ไอเทมที่ซื้อในแอป
  3. ป้อนชื่อโปรโมชัน 
    • ชื่อนี้ควรเป็นชื่อที่ไม่ซ้ำกันซึ่งคุณใช้ระบุโปรโมชันแต่ละรายการที่ตั้งค่าไว้ได้ง่ายๆ ซึ่งผู้ใช้ใน Google Play จะไม่เห็นและไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้หลังจากสร้างโปรโมชันแล้ว 
    • ชื่อโปรโมชันจะปรากฏในหน้าภาพรวมโปรโมชัน ตลอดจนในตารางและแผนภูมิประสิทธิภาพโปรโมชัน  
    • สำหรับโปรโมชันที่มีอยู่และโปรโมชันที่ผ่านมา คุณจะเห็นการเพิ่มชื่อโปรโมชันซึ่งเป็นการรวมชื่อผลิตภัณฑ์หรือระดับคูปอง วันที่เปิดตัวโปรโมชัน และส่วนลด
  4. เลือกประเภทโปรโมชันของผลิตภัณฑ์โดยเลือกจำกัดหรือไม่จำกัด และกำหนดรายละเอียดโปรโมชัน
  5. คลิก + ประเทศ/ภูมิภาค เลือกสถานที่ที่คุณต้องการให้บริการโปรโมชัน แล้วคลิกใช้
    • เราขอแนะนำให้กำหนดเป้าหมายโปรโมชันเป็นประเทศ/ภูมิภาคหลายแห่งเพื่อลดจำนวนโปรโมชันที่จะต้องจัดการ
    • คุณตั้งค่าโปรโมชัน 2 รายการที่กำหนดเป้าหมายเป็นประเทศ/ภูมิภาคเดียวกันโดยมีมูลค่าคูปองหรือไอเทมที่ซื้อในแอปเหมือนกันไม่ได้
    • คุณจะเลือกประเทศ/ภูมิภาคได้เมื่อแอปที่กำลังสร้างโปรโมชันไว้ใช้นั้นเผยแพร่ในประเทศ/ภูมิภาคดังกล่าวเท่านั้น (ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชันที่ใช้งานจริงหรือผ่านการทดสอบแบบเปิด)
  6. สำหรับโปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอปเท่านั้น: ใช้ตัวเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อระบุไอเทมที่ผู้ใช้จะใช้แต้มแลกรับได้
    • โปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอปต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านประสบการณ์ของผู้ใช้และจะได้รับการตรวจสอบก่อนที่จะพร้อมให้บริการใน Google Play

    • คุณไม่สามารถแก้ไขข้อมูลราคาของไอเทมที่ใช้ในโปรโมชันที่ใช้งานอยู่
  7. เลือกวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดของโปรโมชัน
    • โปรโมชันแบบไม่จำกัดต้องทำงานเป็นเวลาอย่างน้อย 180 วัน
    • โปรโมชันแบบจำกัดมีระยะเวลา 1-180 วัน และจะขยายเวลาวันที่สิ้นสุดไม่ได้
    • โปรโมชันจะเริ่มเวลา 00:00 น. และสิ้นสุดเวลา 23:59 น. ของวันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดโดยใช้เขตเวลาในประเทศหรือภูมิภาคของผู้ใช้
  8. เลือกอัตราส่วนลดสำหรับโปรโมชัน
    • อัตราส่วนลดจะใช้กับมูลค่าคูปองหรือราคาไอเทมที่ซื้อในแอปเพื่อเป็นรางวัลจูงใจผู้ใช้เพิ่มเติมสำหรับการเข้าร่วมในโปรแกรม
    • ส่วนลดที่จำเป็นอาจแตกต่างกันไปตามประเทศ/ภูมิภาคที่คุณเลือก
  9. สำหรับโปรโมชันคูปองเท่านั้น: เลือกมูลค่าของคูปอง
    • ระบบจะปิดใช้ระดับราคาไว้หากคุณไม่มีไอเทมที่ซื้อในแอปอย่างน้อย 1 รายการที่มีมูลค่ามากกว่ามูลค่าของโปรโมชันคูปองในประเทศเป้าหมายทั้งหมด
  10. เมื่อตรวจสอบการตั้งค่าโปรโมชันแล้วให้คลิกส่ง หลังจากที่ส่งข้อมูลแล้วคุณจะกลับไปแก้ไขไม่ได้อีก
    • คุณหยุดโปรโมชันที่ให้บริการอยู่ซึ่งมีระยะเวลาอย่างน้อย 180 วันได้ผ่านทาง Play Console และจะหยุดโปรโมชันที่ให้บริการอยู่ซึ่งมีระยะเวลาไม่ถึง 180 วันได้ด้วยการติดต่อที่อยู่ของทีมสนับสนุนตามที่ระบุไว้ในหน้า Play Points

หมายเหตุ: โปรโมชันในแอปอาจใช้เวลาถึง 10 วันในการตรวจสอบ อนุมัติ และแสดงใน Google Play หากวันที่เริ่มต้นที่กำหนดไว้นานกว่า 10 วันหลังจากการส่งข้อมูล โปรโมชันจะไม่แสดงจนกว่าจะถึงวันที่เริ่มต้น

ดูรายละเอียดโปรโมชัน

คุณดูรายละเอียดของโปรโมชันที่กำลังดำเนินอยู่ได้ดังนี้

  1. เปิด Play Console แล้วไปที่หน้าแต้ม Play (สร้างรายได้ด้วย Play > ผลิตภัณฑ์ > แต้ม Play)
  2. ในส่วน "โปรโมชัน" ให้คลิกโปรโมชันที่ต้องการดู
  3. เรียกดูข้อมูลในหน้ารายละเอียดโปรโมชัน ซึ่งมีข้อมูลผลิตภัณฑ์ ประเภทโปรโมชันผลิตภัณฑ์ จำนวนที่แลกได้สูงสุดต่อประเทศ/ภูมิภาค จำนวนที่แลกได้สูงสุดต่อผู้ใช้ วันที่สิ้นสุด อัตราส่วนลด และมูลค่าโดยประมาณของโปรโมชัน

คุณสามารถดูรายละเอียดของโปรโมชันที่ผ่านมาในส่วน "โปรโมชันที่ผ่านมา" ของหน้าแต้ม Play ได้ด้วย

ต้นทุนแต้มของโปรโมชัน

จำนวนแต้ม Google Play ที่ต้องใช้ในการแลกรับโปรโมชันจะคำนวณตามข้อมูลต่อไปนี้

  • มูลค่าของรางวัล
    • สำหรับโปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอป มูลค่านี้คือราคาในร้านของไอเทมที่ซื้อในแอป
    • สำหรับโปรโมชันคูปอง มูลค่านี้คือมูลค่าคูปองเฉพาะประเทศสำหรับระดับราคาที่เลือก
  • อัตราส่วนลด
  • กฎการปัดเศษ
  • มูลค่าของแต้มในตลาดที่เลือก

คุณดูต้นทุนแต้มของโปรโมชันสำหรับแต่ละประเทศได้ในส่วนมูลค่าคูปองหรือมูลค่าแต้มเมื่อกำหนดการตั้งค่าโปรโมชัน

ระดับราคาโปรโมชันคูปอง

คุณสามารถกำหนดมูลค่าของคูปองด้วยการเลือกระดับราคาที่กำหนดมูลค่าสำหรับทุกประเทศได้ เพื่อให้กำหนดค่าโปรโมชันคูปองในหลายประเทศได้ง่ายขึ้น ระบบจะปิดใช้ระดับราคาไว้หากคุณไม่มีไอเทมที่ซื้อในแอปอย่างน้อย 1 รายการที่มีมูลค่ามากกว่ามูลค่าของโปรโมชันคูปองในประเทศเป้าหมายทั้งหมด

Google อาจอัปเดตมูลค่าของแต่ละประเทศในระดับราคาแต่ละระดับได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ การดำเนินการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของโปรโมชันคูปองที่มีอยู่แล้ว

หลักเกณฑ์ด้านประสบการณ์ของผู้ใช้สำหรับโปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอป

แอปของคุณต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านล่างก่อนส่งโปรโมชันเข้ารับการตรวจสอบ เพื่อดูแลให้ผู้ใช้แลกแต้มเพื่อรับโปรโมชันไอเทมที่ซื้อในแอปของคุณได้อย่างราบรื่น

โปรโมชันอาจถูกปฏิเสธหากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ ในกรณีนี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทางกล่องจดหมาย และจะต้องแก้ปัญหาก่อนส่งโปรโมชันเข้ารับการตรวจสอบอีกครั้ง

ตรวจดูว่าไอเทมที่ซื้อในแอปพร้อมให้บริการในเวอร์ชันที่ใช้งานจริง

ในการประเมินประสบการณ์การแลกรับไอเทมที่ซื้อในแอป ไอเทมดังกล่าวต้องพร้อมให้บริการในรุ่นเวอร์ชันที่ใช้งานจริงล่าสุดของแอป หรือในรุ่นทดสอบแบบเปิดหากแอปยังไม่ได้เผยแพร่เป็นเวอร์ชันที่ใช้งานจริง

ดูแลให้ไอเทมพร้อมใช้งานโดยไม่ต้องรีสตาร์ท

ผู้ใช้อาจเปิดแอปของคุณอยู่แล้วก่อนที่จะแลกแต้มเพื่อรับไอเทมที่ซื้อในแอปใน Google Play แอปของคุณควรตรวจสอบไอเทมใหม่ที่ซื้อในแอปได้โดยไม่ต้องรีสตาร์ทแอป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีดึงข้อมูลไอเทมที่ซื้อในแอปได้ที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android

สื่อสารเกี่ยวกับการแลกรับไอเทมที่ซื้อในแอปให้ชัดเจน

ผู้ใช้อาจเปิดแอปของคุณอยู่แล้วก่อนที่จะแลกแต้มเพื่อรับไอเทมที่ซื้อในแอปใน Google Play แอปของคุณควรตรวจสอบไอเทมใหม่ที่ซื้อในแอปได้โดยไม่ต้องรีสตาร์ทแอป ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสื่อสารเกี่ยวกับการซื้อนอกแอปได้ที่เว็บไซต์ของนักพัฒนาแอป Android

ระบุข้อมูลเมตาที่สื่อความหมายสำหรับไอเทม

คุณควรแปลชื่อและคำอธิบายไอเทมในตลาดที่คุณนำเสนอโปรโมชัน เราขอแนะนำให้ใช้ชื่อที่มีอักขระไม่เกิน 20 ตัว

ไอคอนของไอเทมต้อง

  • ตรงกับกราฟิกที่ใช้เพื่อเป็นตัวแทนของไอเทมในแอปหรือเกม
  • ไม่ซ้ำกันในไอเทมที่ซื้อในแอปแต่ละรายการ
  • ไม่มีคำอธิบายที่เป็นข้อความ ตลอดจนป้ายโปรโมต หรือป้ายแสดงแบรนด์

คำถามที่พบบ่อย

การคืนเงินของโปรโมชัน Google Play Points มีการจัดการอย่างไร

โปรดอ่านนโยบายของเราเกี่ยวกับการคืนเงินของ Google Play Points

ฉันจะดูและจัดการโปรโมชันที่มีอยู่ใน Play Console ได้อย่างไร

หากคุณได้กำหนดค่าโปรโมชันแจกแต้ม Google Play ไว้นอก Play Console ก็จะดูหรือจัดการโปรโมชันเหล่านี้ใน Play Console ไม่ได้ คุณสร้าง จัดการ และดูโปรโมชันใหม่ใน Play Console ได้นับจากวันที่โปรโมชันที่มีอยู่สิ้นสุดลง

ฉันจะดูข้อมูลการรายงานสำหรับโปรโมชัน Play Points ของฉันได้อย่างไร

คุณดูข้อมูลนี้ได้ในคอลัมน์ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อที่มีโปรโมชันในรายงานการขายที่คาดการณ์และรายงานรายได้ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้

คุณดูคอลัมน์ต่อไปนี้ได้ในรายงานการขายที่คาดการณ์

  • รหัสโปรโมชัน
  • มูลค่าคูปอง
  • อัตราส่วนลด

คุณดูคอลัมน์ต่อไปนี้ได้ในรายงานรายได้

  • รหัสโปรโมชัน

ไปที่หน้าศูนย์ช่วยเหลือเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดาวน์โหลดและการส่งออกรายงานประจำเดือน

ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม

เราจะปรับปรุงได้อย่างไร

หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม

ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

false
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
11425591402074649503
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
true
true
true
true
true
92637
false
false
false
false